หนุ่มวิศวะคอมฯ ก๊อบหนัง AV ขาย วันละ 5-6 พันแผ่น ฟันเดือนละ 3 ล้าน

หนุ่มวิศวะคอมฯ ก๊อบหนัง AV ขาย วันละ 5-6 พันแผ่น ฟันเดือนละ 3 ล้าน

รวบหนุ่มวิศวะคอมพิวเตอร์ ก๊อบหนัง AV ขายผ่านเว็บไซต์ ฟันเงินเดือนละ 3 ล้านบาท แต่ละวันขายได้ประมาณ 5,000-6,000 แผ่น จากกรณีที่ ตำรวจสอบสวนกลาง บุกทลายแหล่งผลิตแผ่นดีวีดีเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์ และซีดีลามก กว่า 1400,000 แผ่น มูลค่า 21 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายศรายุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และ น.ส.นันทภา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ที่บ้านเลขหลังหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซ.34 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.

พบของกลางเป็น แผ่น DVD/Bluray ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ จำนวน 139,500 แผ่น 

แผ่นหนังลามกอนาจาร จำนวน 1,200 แผ่น เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 8 เครื่อง และอุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก รวมของกลางมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบจนพบ กลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายแผ่น DVD/Blue-Ray ละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ทางช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก จากนั้นพบว่า เว็บไซต์ www.Blurayman.com ลอบขายหนังละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหนังไทยและต่างประเทศ รวมถึงหนังลามกอนาจาร ต่อมาได้สืบสวนจนทราบว่า เว็บไซต์ดังกล่าว มีแหล่งผลิตและที่เก็บสินค้าอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ จึงนำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ก่อนเข้าตรวจค้นและทำการจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว

นายศรายุทธ ผู้ต้องหา สารภาพว่า ตนเองเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ มาจากสถาบันแห่งหนึ่ง มีความรู้ด้านการจัดทำเว็บไซต์ จึงได้สร้างเว็บขึ้นมาเพื่อดาว์นโหลดหนังลามกและละเมิดลิขสิทธิ์ ก่อนนำมาบันทึกลงแผ่นดีวีดีแล้วลงโฆษณาขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง

ส่วนเงินค่าสินค้าก็จะรับโอนผ่านบัญชีธนาคาร ที่ตนไปจ้างบุคคลอื่นมาเปิดจำนวน 5 บัญชี ทำมาแล้ว 5 ปี โดยมีราคาขายหนังเรื่องละ 60-170 บาท แต่ละวันก็จะขายได้ประมาณ 5,000-6,000 แผ่น เดือน ๆ หนึ่งจะขายได้ประมาณ 3 ล้านบาท ส่วน น.ส.นันทภา นั้นเป็นลูกจ้างทำหน้าที่เป็นแอดมิน คอยรับออร์เดอร์และจัดส่งสินค้า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการทำซ้ำ ดัดแปลง ขาย เสนอ ขาย มีไว้เพื่อขายซึ่งงานภาพยนตร์ โดยไม่ได้รับอนุญาต และเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า ผลิต แจกจ่ายซึ่งภาพยนตร์ลามก หรือสิ่งลามก” พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พนักงานใจเด็ด! วิ่งตามคนร้าย หลังก่อเหตุ ปล้นร้านทองชัยภูมิ

พนักงานร้านทองวิ่งตามคนร้ายหลังจากที่ชายถือค้อนบุก ปล้นร้านทองชัยภูมิ และคว้าทองได้หลายเส้น ก่อนเป็นเบาะแสสำคัญในการจับผู้ก่อเหตุ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 พฤศจิกายน ได้เกิดเหตุชายถือค้อนบุกปล้นร้านทอง ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีชัยภูมิ โดยพนักงานที่อยู่เหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีกรมท่า กางเกงสามส่วนสีกรมท่า เดินเข้ามาบอกว่า

นี่คือการปล้น และถือค้อนจะฟาดพนักงาน ทางพนักงานก็หลบ คนร้ายจึงกระโดดข้ามเคาน์เตอร์คว้าทองหนัก 1 บาท จำนวน 10 เส้น กระโดดข้ามเคาน์เตอร์อีกครั้งแล้วหลบหนีไปยังลานจอดรถจักรยานยนต์

อย่างไรก็ตามมีพนักงานใจกล้า วิ่งตามออกไป จึงเห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์-ดำ เห็นป้ายทะเบียนไม่ชัด กลับมาแจ้งตำรวจ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญที่ทางทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายสิทธิโชค ดงทอง อายุ 30 ปี

นายสิทธิโชค ให้การว่า ตนมีอาชีพรับจ้าง ช่วงนี้ไม่มีงาน เลยไม่มีเงินมาซื้อยาบ้า จึงคิดก่อเหตุหาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ ส่วนค้อนที่ใช้ก่อเหตุนั้น โยนทิ้งในสระน้ำหมู่บ้านไปแล้ว ส่วนทองคำทั้งหมดนำไปเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อรอนำไปขาย และนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว ชายถือค้อนบุกเดี่ยวปล้น ร้านทองชัยภูมิ พร้อมของกลางเป็นทอง 49 เส้น มูลค่ากว่า 9 แสนบาท อ้างตกงานไม่มีเงินซื้อยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ สามารถจับกุม นายสิทธิโชค ดงทอง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ถือค้อนบุกเดี่ยวชิงทอง ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาห้างบิ๊กซีชัยภูมิ ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ เมื่อช่วงเวลา 18.20 น. วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่พบของกลางเป็น สร้อยทองคำทั้งหมด จำนวน 49 เส้น น้ำหนัก 33 บาท มูลค่า 988,250 บาท จึงคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมือง ชัยภูมิ นายสิทธิโชค ให้การว่า ตนมีอาชีพรับจ้าง ช่วงนี้ไม่มีงาน เลยไม่มีเงินมาซื้อยาบ้า จึงคิดก่อเหตุหาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ ส่วนค้อนที่ใช้ก่อเหตุนั้น โยนทิ้งในสระน้ำหมู่บ้านไปแล้ว ส่วนทองคำทั้งหมดนำไปเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อรอนำไปขาย และนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ และชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน” กับนายสิทธิโชคไว้ก่อน และจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพต่อไปในวันที่ 24 พ.ย. ต่อไป

พร้อมทิ้งท้ายว่า ผมมาที่นี่เพื่อตบไอนักร้อง ให้มันหยุดร้องซักที หรือร้องสิ่งที่ควรจะร้องไม่ใช่ร้องคนเห็นต่างกันไป ขณะที่นาย ศรีสุวรรณ เข้าไปภายในอาคารตำรวจสอบสวนกลาง ประวิตร หายป่วย อาการดีขึ้น หลังจากมีอาการคล้ายวัดเมื่อวาน เตรียมลงพื้นที่ลุยงานแก้ปัญหาน้ำท่วมต่อ และพบประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ในระหว่างที่ ศรีสุวรรณ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อนั้น ก็ได้มีชายคนหนึ่งได้ถามคำถามนาย ศรีสุวรรณ ก่อนปรี่เข้ามาต่อยและทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ หลังศรีสุวรรณ โดนต่อย ก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้น

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป